【สุขภาพ】อันดับอาหารเสริมสังกะสี ที่นิยม การเลือก10

สังกะสี มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ประมาณ 2 กรัม และเป็นสารอาหารที่สำคัญและมีประโยชน์มากเพื่อรักษาสุขภาพ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิด ช่วยการผลิตพลังงานในร่างกายทำให้เซลล์เติบโตได้ดีและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

สังกะสีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้าง "เคราติน" ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเส้นผม เมื่อสังกะสีไม่เพียงพอเคราตินจะทำงานได้น้อย ทำให้ผมร่วงและไม่เงางาม อาจส่งผลให้ผมบาง

สังกะสีช่วยเสริมโปรตีนให้กับผิวหนัง และทำให้มีสุขภาพผิวที่ดี การรับประทานสังกะสีในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยบำรุงผิวและเส้นผมให้สวยงาม

ลิ้น เป็นอวัยวะที่สำคัญในการรับรู้รสชาติของอาหาร สังกะสีช่วยเซลล์ที่อยู่ในลิ้นเพื่อให้เปลี่ยนรสชาติตามอาหารที่ทาน

ดังนั้น สังกะสีจึงเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้เซลล์ในลิ้นรับรู้รสชาติของอาหารได้ดีขึ้น แต่เมื่อร่างกายขาดแร่ธาตุสังกะสี จะทำให้เซลล์ในลิ้นรับรู้รสชาติได้อ่อนลง จึงสำคัญที่จะรับประทานอาหารที่เสริมสังกะสีเพื่ออรรถรสในการรับประทานอาหาร และรับรู้รสชาติใหม่ๆ ได้ดีขึ้น

เมื่อพูดถึงการฝึกกล้ามเนื้อ สิ่งแรกที่นึกได้คือ "โปรตีน" โปรตีนนี้สำคัญต่อการฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่ส่งเสริมการทำงานของโปรตีนด้วย สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งในการสังเคราะห์กล้ามเนื้อและเพิ่มผลของการฝึกกล้ามเนื้อ โดยการเพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า IGF-1 ซึ่งถูกหลั่งออกมาเมื่อทำการฝึกกล้ามเนื้อ ดังนั้น หากคุณอยากมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ต้องเลือกรับประทานอาหารเสริมสังกะสีด้วย

สาเหตุทั่วไปของสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายลดลง คือฮอร์โมนเพศชายลดลง สังกะสีมีความเข้มข้นสูงในต่อมลูกหมากและอวัยวะสืบพันธุ์และมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในการสังเคราะห์แอนโดรเจนและการผลิตอสุจินี้ ช่วยกระตุ้นระบบสืบพันธุ์ได้ด้วย

การขาดสังกะสีสามารถนำไปสู่การมีบุตรยากและลดการทำงานของระบบสืบพันธุ์ ในสหรัฐอเมริกาสังกะสีถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการรักษาการทำงานของระบบสืบพันธุ์ในผู้ชายซึ่งเรียกว่า "แร่ธาตุทางเพศ"

เมื่อมีปัญหาเรื่องการมีบุตรยากหรือระบบสืบพันธุ์ ควรเลือกทานอาหารที่เสริมสังกะสี

มีจุดไม่กี่ที่ควรทราบเมื่อเลือกอาหารเสริมสังกะสี เราจะแนะนำวิธีเลือกอาหารเสริมสังกะสีที่สำคัญให้คุณ

ปริมาณสังกะสีที่แนะนำต่อวันคือ 10 มก. สำหรับผู้ชายอายุ 18 ถึง 69, 9 มก. สำหรับผู้ชายอายุ 70 ​​ขึ้นไป, 8 มก. สำหรับผู้หญิงอายุ 18 ถึง 69 และ 7 มก. สำหรับผู้หญิงอายุ 70 ​​ขึ้นไป ปริมาณสังกะสีที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเช่นโรคโลหิตจางและปวดท้อง

ดังนั้น ปริมาณที่เหมาะสมสูงสุดไม่ควรเกิน 40 มก. สำหรับผู้ชายอายุ 18 ถึง 29 และ 70 ปี, 45 มก. สำหรับผู้ชายอายุ 30 ถึง 49 และ 50 ถึง 69, และ 35 มก. สำหรับผู้หญิงอายุ 18 ถึง 70 ขึ้นไป 

ดังนั้น คุณควรตรวจสอบปริมาณของสังกะสีที่อยู่ในอาหารเสริมหรือสิ่งที่คุณจะรับประทาน เพื่อให้ได้ปริมาณสังกะสีที่เหมาะสมกับคุณ

ในการหาอาหารเสริมสังกะสีที่เหมาะสมสำหรับคุณ เป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบส่วนผสมเสมอ เช่น  "วัตถุดิบของสังกะสี" และ "ส่วนประกอบอื่นที่ไม่ใช่สังกะสี" ที่มีอยู่ในอาหารเสริม

อาหารที่มีสังกะสีประกอบด้วยเนื้อสัตว์ อาหารทะเลและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง โดยเฉพาะหอยนางรมมีปริมาณสังกะสีสูงมาก ในหอยนางรม 100กรัม มีสังกะสี 13.2 มก.สำหรับตับหมู 100กรัม มีปริมาณสังกะสี 6.9 มก. ซึ่งต่างกันมาก

ด้วยเหตุนี้ เราแนะนำให้คุณเลือกอาหารเสริมสังกะสีที่ทำจากหอยนางรม การเสริมแร่ธาตุจากหอยนางรมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอ

นอกจากสังกะสีแล้วผลิตภัณฑ์เสริมสังกะสีบางชนิดยังมีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียมและวิตามิน เช่นวิตามิน A และ B1 

ถ้ามีอาหารเสริมสังกะสีที่มีส่วนผสมต่างๆ เหล่านั้น จะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่สมดุลต่อร่างกาย และนอกจากนั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบำรุงและยาชูกำลังเช่น maca, arginine และโสม ดังนั้น จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะเลือกตามสภาพร่างกายของคุณ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสังกะสีมีสามประเภท คือ ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ส่วนผสมจากธรรมชาติ + ส่วนผสมทางเคมีและส่วนผสมทางเคมี 100% อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมสังกะสีที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% จึงปลอดภัยสูงกว่าประเภทอื่น ๆ

เมื่อเลือกอาหารเสริมสังกะสีธรรมชาติ ควรทำให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบสถานที่ผลิตและการนำเข้าจากแต่ละประเทศด้วย เนื่องจาก กรรมวิธีการผลิตของแต่ละประเทศต่างกัน ดังนั้น ราคาของผลิตภัณฑ์ก็จะต่างกัน คุณควรแน่ใจว่าคุณซื้ออาหารเสริมสังกะสีที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และราคาที่เหมาะสม

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องทานทุกวัน ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทานได้ง่ายทุกวัน 

อาหารเสริมสังกะสีส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของแคปซูล ซึ่งควรทาน 1 ถึง 3 เม็ดต่อวัน หลังจากทานได้สองหรือสามเดือนแล้ว จะสามารถรับรู้ได้ถึงประโยชน์ที่มากมายของอาหารเสริมสังกะสี ดังนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสังกะสีที่ทานง่าย รสชาติดี และกลิ่นของอาหารเสริมเพื่อการรับประทานอย่างต่อเนื่่อง

อาหารเสริมสังกะสี ไม่ควรทานเยอะมากเกินไป บริโภคเพียงวันละหนึ่งครั้งก็พอ หากร่างกายได้รับสังกะสีมากเกินไปอาจทำให้เกิดความผิดปกติต่าง ๆ เช่น ความผิดปกติของไต, โรคภูมิคุ้มกัน, โรคระบบทางเดินอาหารและโรคท้องร่วง 

ดังนั้น ควรควบคุมปริมาณอาหารเสริมสังกะสีที่คุณทาน เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

อาหารเสริมสังกะสีสามารถรับประทานตอนไหนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหมาะสมในการทำให้เกิดผลสูงสุด เมื่อใช้แร่ธาตุสังกะสีควรเป็นเวลาหลังอาหาร แต่ถ้าคุณเหนื่อยมากหรือเป็นหวัดแนะนำให้ทานก่อนนอน

เนื่องจาก อัตราการดูดซึมของส่วนประกอบก่อนนอนมีค่าสูงกว่าปกติถึงสองเท่า จึงส่งผลให้สังกะสีสามารถนำเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่มอัตราการดูดซึมของสังกะสีคุณควรรับประทานก่อนนอน

สังกะสีเองนั้นไม่เป็นอันตราย ดังนั้น หากคุณรักษาปริมาณที่แนะนำไว้จะไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณได้รับสังกะสีมากกว่า 2 กรัมต่อวัน อาจทำให้เกิดอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและความผิดปกติอื่น ๆ

นอกจากนี้ หากคุณยังคงรับปริมาณเกินขีดจำกัดและบริโภคผิดวิธี จะนำไปสู่โรคโลหิตจางและการทำงานของภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามการคำแนะนำอย่างถูกต้อง

ส่วนผสมที่อุดมไปด้วยสังกะสี ได้แก่ หอยนางรม ตับหมู เต้าหู้ เนื้อวัวต้นขา (เนื้อแดง) ปลาไหล (คาบายากิ) หอยเชลล์ดิบ หอยกาบ เนื้อไก่และถั่วเหลือง

อาหารที่มีปริมาณ 100 กรัมของตับหมูคือ 6.9 มก., เต้าหู้ คือ 5.2 มก., เนื้อวัว (ลีน) คือ 4.4 มก. ในขณะที่หอยนางรมมี 13.2 มก. สามารถกล่าวได้ว่า หอยนางรมเป็นแหล่งสังกะสีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาส่วนผสมหลายชนิด

สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่ขาดไม่ได้ต่อร่างกาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะได้รับปริมาณที่เพียงพอจากอาหารปกติ อาหารเสริมสังกะสีก็มีประสิทธิภาพที่ดี ช่วยให้แข็งแกร่ง มีชีวิตชีวา ดังนั้น ควรทานอาหารที่มีสังกะสีเป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพของคุณ