【ใ่ส่เพื่อแฟชั่น】อันดับG-SHOCK ที่นิยม การเลือก10

รุ่นสีดำด้านล้วนสุดคลาสสิคนี้คือการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีของ G-SHOCK ด้วยรูปลักษณ์ที่ทนทานขั้นสูงสุด รุ่นพื้นฐานของนาฬิกาเรือนนี้คือรุ่น DW-5500 ที่มีหน้าปัดเหลี่ยม รุ่นสุดยอดอเนกประสงค์สไตล์นีโอคลาสสิคนี้เหมาะสำหรับการแต่งกายแบบสตรีทแฟชั่น โหมดแฟชั่น สปอร์ต และเกือบทุกสไตล์ที่สร้างสรรค์ได้

นาฬิกาคอลเลคชั่นจับนาฬิกาหลากรุ่นเช่น นาฬิกากันโคลนอย่างรุ่น MUDMAN มาปรับโฉมใหม่ในดีไซน์สีดำเงางาม สีดำบนตัวเรือนได้รับการขับให้โดดเด่นด้วยเฟืองและหน้าปัดสีทองที่ทำให้นาฬิกามีลุคเหมือนเครื่องกล

G-SHOCK GRAVITYMASTER รุ่นนี้เป็นหมวดผลิตภัณฑ์ G-SHOCK รุ่นแรกที่มีหน้าจอ LCD 7 × 33 จุด และกรอบโลหะมีเหลี่ยมชุบเคลือบไอออน สื่อถึงภาพของเครื่องบินที่ล้ำยุค สายหล่อแบบสองสีช่วยเพิ่มความรู้สึกที่ชัดเจนถึงความสง่างามที่ทันสมัย Connected Engine

รองรับสัญญาณการปรับแก้ไขเวลาและการเชื่อมต่อ Bluetooth® หลังจากเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth® แล้ว คุณสามารถใช้แอป G-SHOCK Connected เพื่อกำหนดการตั้งค่าเสียงปลุกนับถอยหลัง เพื่อจัดการเนื้อหาตำแหน่งที่ใช้ประจำในหน่วยความจำ และเพื่อจัดการและจัดเก็บบันทึกข้อมูลบันทึกการบินของระยะทางและเวลาเดินทางด้วยเครื่องบินได้ เพื่อยืนยันถึงความแม่นยำในการบอกเวลา

สู่ซีรีย์รุ่นพื้นฐานที่มาพร้อมกับการลงสีดำล้วนและสายผ้า ฟังก์ชันอันทรงประสิทธิภาพได้รวมอยู่ในรูปแบบนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมในการทำงานที่หนักหน่วง โดยมาพร้อมกับสายผ้าไนลอน CORDURA® ที่มีความแข็งแรงมากกว่าไนลอน

สายประเภทนี้ผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงมาก ทั้งยังให้ความทนทานต่อการยืด การสึกหรอ และการฉีกขาด ห่วงสายนาฬิกา ผลิตจากสแตนเลสสตีล การลงสีแบบโมโนโทนในนาฬิการุ่นนี้ทำให้มีภาพลักษณ์ที่เข้มและทรงพลังที่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ที่ต้องเผชิญความยากลำบาก

โครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน จาก G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาที่สร้างมาตรฐานใหม่อย่างไม่หยุดยั้งด้านความแข็งแกร่งของอุปกรณ์บอกเวลา มาสู่รุ่น G-STEEL ใหม่ ที่มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอนแบบใหม่สำหรับป้องกันแรงกระแทก ตัวเรือนผลิตจากเรซินชั้นดีที่ผสานคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อให้มีน้ำหนักเบา

พร้อมด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นกว่าเรซินประเภทอื่นๆ วัสดุนี้ปกป้องโมดูลภายในจากความเสียหายและการเสียรูปจากแรงกระแทก ฝาหลังแบบคู่ปกป้องพื้นผิวด้านหลังจากแรงกระแทก ตัวเรือนขนาดเล็กของรุ่นพื้นฐานในซีรีส์ GST-B100 มอบความสบายในการสวมใส่อย่างพอดี แม้ว่านาฬิกาจะมีหน้าปัดขนาดใหญ่ก็ตาม หน้าจอ LCD ที่ติดสว่างได้ในที่มืดช่วยเสริมทั้งในด้านฟังก์ชันและดีไซน์ของหน้าปัด

จาก G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาที่สร้างมาตรฐานใหม่อย่างไม่หยุดยั้งในด้านความแข็งแกร่งของอุปกรณ์บอกเวลา สู่ซีรีย์รุ่นพื้นฐานที่มาพร้อมกับการลงสีดำล้วนและสายผ้า ฟังก์ชันอันทรงประสิทธิภาพได้รวมอยู่ในรูปแบบนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมในการทำงานที่หนักหน่วง

โดยมาพร้อมกับสายผ้าไนลอน CORDURA®* ที่มีความแข็งแรงมากกว่าไนลอน สายประเภทนี้ผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงมาก ทั้งยังให้ความทนทานต่อการยืด การสึกหรอ และการฉีกขาด ห่วงสายนาฬิกา ผลิตจากสแตนเลสสตีล

G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาที่สร้างมาตรฐานใหม่อย่างไม่หยุดยั้งด้านความแข็งแกร่งของอุปกรณ์บอกเวลา พบกับ G-STEEL นาฬิกาที่ "โครงสร้างเสริมเพื่อป้องกัน" กรอบทำจากวัสดุหลายชนิดเป็นโครงสร้างแบบสองชั้นเพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน สำหรับรุ่นที่ทำจากสเตนเลสสตีลที่ส่วนบน จะมีการใช้วัสดุเรซินที่รองรับแรงกระแทกที่ส่วนล่าง ถ้ามีการใช้วัสดุเรซินที่ส่วนบน จะใช้วัสดุเรซินเนื้อละเอียดในส่วนล่างเพื่อรองรับการกระแทกที่เกิดกับส่วนบน ด้วยวิธีนี้

จึงทำให้สามารถสร้างการออกแบบอันหลากหลาย รุ่น GST-S110 แสดงออกถึงความแข็งแกร่งและความงามของโลหะ คุณสมบัติการเลื่อนเข็มนาฬิกาจะเลื่อนเข็มนาฬิกาเพื่อไม่ให้บดบังหน้าปัดดิจิตอลด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ขณะที่ไฟส่องหน้าปัดแบบ LED สองดวงจะทำให้สามารถอ่านข้อมูลได้ง่ายตลอดเวลา - โครงสร้างเสริมเพื่อป้องกัน - Tough Solar - คุณสมบัติในการเลื่อนเข็มนาฬิกา - ไฟ LED สองดวงส่องหน้าปัดและหน้าปัดดิจิตอลเพื่อให้อ่านค่าได้ง่าย

จาก G-SHOCK นาฬิกาที่แสวงหาซึ่งความแข็งแกร่ง หมวดผลิตภัณฑ์ G-STEEL รุ่นแรกจึงเปิดตัวเพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานแบบโครโนกราฟในรูปแบบอะนาล็อก แม้ว่าหน้าปัดของรุ่นนี้เป็นแบบอะนาล็อก แต่ยังคงมอบการป้องกันแรงกระแทกที่เหนือชั้นในอีกระดับ หน้าจอที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกามีดิสก์ที่หมุนได้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับใบพัดที่หนาของเครื่องยนต์เจ็ท การหมุนของใบพัดจะแสดงสีแดงอยู่หลังดิสก์

ซึ่งจะการเปลี่ยนสีนี้ใช้เพื่อบ่งบอกถึงระดับแบตเตอรี่และการตั้งค่าเปิด/ปิดนาฬิกาปลุก ใบพัดยังหมุนในโหมดบอกเวลาและจับเวลาพร้อมบอกช่วงเวลาอีกด้วย โครงสร้างการป้องกันเป็นชั้นแบบใหม่มีวัสดุเรซินรองรับการกระแทกด้านในตัวเรือน เพื่อดีไซน์หรูหราที่มากยิ่งขึ้นและพอดีกับข้อมือมากขึ้น เทคโนโลยีการประกอบที่แน่นหนาสูงทำให้สามารถสร้างโมดูลที่เล็กและบางกว่า ซึ่งมอบความกระชับพอดีที่มากขึ้น

นับตั้งแต่ DW-5000 ตัวแรก G-SHOCK ได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ด้านนวัตกรรมการออกแบบ โครงสร้างอันแข็งแกร่ง และโมดูลประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยมา ในปี 2018 นี้ซึ่งครบรอบปีที่ 35 ของ G-SHOCK จึงเป็นที่มาของ GMW-B5000 นาฬิกา G-SHOCK โลหะล้วนพร้อมด้วย Connected Engine นาฬิการุ่นนี้ถือเป็นเวอร์ชันโลหะล้วนของรุ่นพื้นฐาน DW-5000 ซึ่งแสดงให้เห็นการปรับแต่งโครงสร้างตัวเรือนแบบกลวงเพื่อให้สามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้ในระดับที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก

ตัวรับแรงกระแทกทำจากเรซินชั้นดีที่อยู่ระหว่างกรอบโลหะโครงสร้างกันแรงกระแทกและตัวเรือนเป็นตัวทำให้เกิดโครงสร้างทนทานต่อแรงกระแทกให้กับตัวเรือนโลหะทั้งหมด นวัตกรรมการเชื่อมต่อข้อสายรัดแบบใหม่ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ต้องเผชิญกับระดับการกระแทกสูงสุด มีการเพิ่มสลักเชื่อมกลางเพื่อช่วยลดภาระที่เกิดกับแกนข้อต่อสาย ฝาหลังตัวเรือนแบบขันสกรูได้รับการเคลือบพื้นผิวคล้ายเพชรที่ทนต่อการขีดข่วน ช่วยให้รู้สึกหนักแน่น

Master of G สีแดงและดำ นาฬิกา G-SHOCK ใน Series Master of G มีความโดดเด่นในการส่งมอบฟังก์ชันอันทรงพลังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ทรหดทั้งบนพื้นดิน ในท้องทะเล และในห้วงนภาอากาศ สีดำด้านใหม่ของนาฬิกาซีรี่ส์นี้ช่วยเสริมคอลเลคชั่นนาฬิกาด้วยภาพลักษณ์แบบผู้ใหญ่ สายสีแดง ตัดสลับกับตัวเรือนสีดำ

ส่งผลให้เกิดคอลเลคชั่นของนาฬิกาที่ดูสวยงามโดดเด่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทาน แบบดั้งเดิมของแบรนด์ G-SHOCK เข็มวินาทีมาพร้อมสีที่สื่อถึงภาพลักษณ์ของสภาพแวดล้อมแห่งท้องฟ้า ท้องฟ้า: GPW-1000RD (GRAVITYMASTER) เข็มวินาทีสีแดง